มีจุดเริ่มต้นมาจากชายชาวฝรั่งเศส ชื่อ คริสเตียน ดิออร์ (Christian Dior) เกิดเมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1905 เป็นนักออกแบบเสื้อผ้า อุปนิสัยของดิออร์เป็นคนละเอียดอ่อน เรียบร้อย ชอบช่วยคุณแม่ออกแบบจัดตกแต่งบ้านและสวน คริสเตียนพัฒนาฝีมือด้านการออกแบบอยู่ภายในห้องใต้หลังคาของบ้านเพื่อนคนนี้ เขาขายงานออกแบบหมวก และเสื้อผ้าให้กับ Haute Couture House กระทั่งฟ้ามีตา ส่งให้ผลงานของเขานั้นกลายเป็นที่นิยม และขายดีอย่างมาก

การลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์ Dior

ในทุกการลงทุนนั้นต้องได้รับการอบรม ศึกษาให้ดีก่อนลงทุน เช่นเดียวกับการลงทุนกับกระเป๋า
แบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป๋น ดิออร์ แชแนล กุชชี่ หรือหลุยส์วิตตองเป็นต้น ต้องได้รับความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการลงทุนให้ครบถ้วนและถูกต้อง เพื่อเป็นประโยชน์ในการลงทุนหรืออการขายกระเป๋า
แบรนด์เนมมือสอง เช่น dior มือสอง channel มือสอง เป็นต้น

1. ลงทุนซื้อมาขายไป กำไรมากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นสินค้ามือหนึ่งจากช็อปหรือสินค้ามือสองจาก ตลาดที่เชื่อถือได้ ก็สามารถซื้อมา-ขายไป เพื่อทำกำไรได้ สำหรับในประเทศไทย  ข้อมูลจากกรม ศุลกากร ระบุมูลค่าการนำเข้า สินค้าแบรนด์เนมโดยตัวแทนถูกต้องตามกฎหมาย ปี 2560-2561 สูงสุด 3 อันดับแรกคือ หลุยส์ วิตตอง,ชาแนลและคริสเตียน ดิออร์

2.ลงทุนซื้อสินค้าแบรนด์มาให้เช่า ความต้องการของตลาดข้อนี้เกิดจากการที่ลูกค้าก็ไม่อยากซื้อเอง อยากแค่ เช่ารายวัน วิธีการคือ นำของที่เรามีหรือที่เราซื้อมา หรือของที่คนนำมาฝากขาย ตกลงกัน ก่อนว่าถ้าของวางอยู่เฉยๆ ไม่ทำเงิน ถ้าปล่อยเช่า ยังมีเงินเข้ามาระหว่างรอขาย แล้วแบ่งเปอร์เซ็นต์ กัน ซึ่งสามารถเช่าได้ทั้งมือหนึ่งและมือสอง เช่น เช่า dior มือสอง เป็นต้น

3. ลงทุนเปิดร้านซ่อมทำความสะอาดสินค้าแบรนด์เนมแบบมีหน้าร้านหรือออนไลน์ ธุรกิจนี้ ผู้ประกอบการต้องมีความรู้ หรือจ้างช่างที่มีความเชี่ยวชาญจริงๆ หากต้องการศึกษาด้วยตนเองทาง สมาคมฯ ก็มีคอร์สสอน ตั้งแต่คอร์สพื้นฐานการบำรุงหนังตามประเภทของหนัง เนื่องจากกระเป๋าหนึ่ง ใบอาจใช้หนังหลายส่วนประกอบกัน หนังแต่ละส่วนใช้น้ำมันบำรุงต่างกัน  เช่น ลาโนลิน ไขวาฬ มิ้งค์ ออยล์ หากใช้ผิดประเภท ต้องระมัดระวัง

ทั้งนี้ กระเป๋าแบรนด์เนมเป็นที่นิยมทั่วโลก การลงทุนจึงอาจจะเป็นผลดีของผู้ลงทุนก็เป็นได้